เรื่องน่าปวดหัวของการสอนเพศศึกษาในญี่ปุ่น

เรื่องน่าปวดหัวของการสอนเพศศึกษาในญี่ปุ่น

โมนามิ โอคุโบะ สาวน้อยวัย 16 ปีจากญี่ปุ่น มองว่าการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งไม่ใช่เรื่องผิด

"ไม่เห็นต้องรอให้แต่งงานก่อนถึงจะมีเพศสัมพันธ์ได้เลย" สาวน้อยมัธยมวัยใส กล่าว

ทัศนคติ ของวัยรุ่นเช่นเดียวกับโอคุโบะ กำลังสร้างปัญหาในแดนซามูไร ที่พฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นกำลังเข้าขั้นวิกฤติ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของเด็กสาวอายุ 17 ปี มีเพศสัมพันธ์แล้ว เพิ่มขึ้นพรวดพราดจากสถิติ 17% เมื่อ 15 ปีก่อน ในขณะที่สถิติเดียวกันของวัยรุ่นชายเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า อยู่ที่ 40% ในปัจจุบัน

อัตราการทำแท้งและการเป็นโรค ติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นที่เพิ่มขึ้นพรวดพราด อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ได้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียง เรื่องการสอนเพศศึกษาในแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งสื่อลามกอนาจารสามารถหาซื้อได้ทั่วไป แต่คนในประเทศกลับไม่กล้าพูดเรื่องเพศกันอย่างเปิดเผย


กลุ่ม ที่ออกมาถกเถียงกันในเรื่องนี้มีอยู่หลายกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มที่เรียกร้องให้ลงลึกในรายละเอียดเรื่องเพศศึกษามากขึ้น กับกลุ่มที่มองว่าปัจจุบันโรงเรียนสอนเรื่องเพศโจ่งแจ้งเกินไป และกลุ่มที่ต้องการให้นำการศึกษาระบบอเมริกันมาใช้

นางอิริโกะ ยามาตานิ ส.ส.พรรครัฐบาลญี่ปุ่น วัย 54 ปี กล่าวว่า การสอนเพศศึกษาอย่างโจ่งแจ้งเกินไปมีส่วนทำให้วัยรุ่นมีเซ็กส์เร็วขึ้น เพราะเด็กๆ ถูกสอนมาตั้งแต่อยู่ชั้นประถมแล้วว่า สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างไร้กังวล ตราบใดที่มีการคุมกำเนิดอย่างถูกต้อง

กลุ่ม หนึ่งที่โดดเข้าร่วมการอภิปรายในครั้งนี้ด้วยคือ บรรดาครูอาจารย์ที่รู้สึกว่า จำเป็นต้องให้ความรู้ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะความอยากรู้อยากเห็นเรื่องเพศตามธรรมชาติของเด็กๆ ถูกปลุกเร้าด้วยภาพอนาจารที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ และความไม่เอาใจใส่ปัญหานี้ของผู้ใหญ่

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลต่างๆ แสดงให้เห็นว่า การพร่ำบอกปากเปียกปากแฉะว่า การมีเพศสัมพันธ์อาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์และติดโรค ไม่ได้รับความสนใจเลย เห็นได้จากสถิติของผู้หญิงทำแท้งที่อายุต่ำกว่า 20 ปีในญี่ปุ่น มีมากกว่า 4 หมื่นคนต่อปี เปรียบเทียบกับเมื่อปี 2513 ที่มีแค่ 1.9 หมื่นคน ขณะที่จำนวนวัยรุ่นที่เป็นหนองพุ่งขึ้นจาก 3,639 ราย เมื่อปี 2543 เป็น 6,163 รายในปีที่แล้ว ขณะที่ผลสำรวจชิ้นอื่นๆ ชี้ว่า ตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านั้น


นางมาซาโกะ กิฮาระ หนึ่งในคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยเกียวโต เสริมว่า หลายโรงเรียนมีการสอนเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่เด็กๆ กลับคิดว่าคนที่จะเป็นโรคพวกนี้มีแต่พวกผู้ใหญ่วัยกลางคนเท่านั้น นอกจากนี้วัยรุ่นญี่ปุ่นจำนวนมากยังเปลี่ยนคู่นอนกันบ่อยขึ้น บางคนมีมากถึงปีละ 3 คนหรือกว่านั้น แต่พวกเขาเหล่านี้กลับคิดว่า ตัวเองปลอดภัยจากโรคติดต่อเพราะมีคู่นอนทีละคน ไม่ได้มีหลายคนในคราวเดียวกัน

ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการพยายามหาทางออกที่นุ่มนวลสำหรับทุกฝ่าย โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงรายหนึ่ง กล่าวว่า มีผู้ปกครองหลายคนไม่ต้องการให้สอนเรื่องเพศศึกษาแบบโจ่งแจ้ง ทำให้ไม่สามารถลงลึกในรายละเอียดเรื่องนี้ในห้องเรียนได้ แต่กระทรวงเห็นว่า จำเป็นต้องมีการป้องกันไม่ให้เด็กๆ ติดโรคทางเพศสัมพันธ์ จึงได้กำชับครูให้ความรู้เรื่องนี้กับนักเรียนเป็นการส่วนตัว

อย่าง ไรก็ดี มีวัยรุ่นจำนวนมากที่อยากลองมีเพศสัมพันธ์ อย่างสาวน้อย อากิ วัย 16 ปี ที่กล่าวเปิดอกว่า ตัวเองอยากรู้อยากเห็นเรื่องเพศ และก็ไม่ชอบที่ใครต่อใครมาบอกให้รักนวลสงวนตัว เพราะฉะนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่โรงเรียนควรจะให้ความรู้เรื่องต่างๆ อย่างการคุมกำเนิดและการป้องกันตัวเอง

5 comments:

เรารักในหลวง said...

ท่าน admin ใจดีมากๆ อิอิ รีบปั๊มแลกรางวัลอยู่นะเนี่ย

IN LOVE said...

..............

Unknown said...

เราขอสนับสนุนให้คนไทยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัย
http://www.playcondom.com

Unknown said...

เราขอสนับสนุนให้คนไทยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัย
http://www.playcondom.com

Thanaphat said...

ก็เมื่อก่อนครูยังไม่มีการสอนเรื่องนี้ เด็กๆก็ยังกลัว ไม่กล้าทำอะไรกัน ไม่กล้ายุ่งเรื่องเพศสัมพันธ์ แต่ปัจจุบันนี้มีครูสอนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่มาก บอกวิธีป้องกัน ทำไงถึงจะไม่ท้อง ถ้าท้องแล้วทำยังงัย เด็กมันก็ไม่กลัวเรื่องพวกนี้แล้วสิ เพราะรู้วิธีป้องกัน กันแล้ว จะมั่วหรืออะไรกับใครที่ไหนก็ได้หมด เพราะไม่กลัวว่าจะท้อง ป้องกันได้โดยใส่ถุงยางอนามัย แบบนี้ จึงทำให้มีการข่มขืน มีเด็กเลวๆเพิ่มมากขึ้นจำนวนมาก ใส่ถุงยางรอ มีเหยื่อเดินผ่านไปมา ก็จับลงข้างทางซะ พอสำเร็จความใคร่ก็หนีไป เพราะยังงัยก็ไม่ท้องอยู่แล้วหนิ จะไปเดือดร้อนอะไร เป็นผม ผมก็สนับสนุนที่ไม่ให้ครูสอนเรื่องพวกนี้นะ พอสอนแล้วพวกเด็กๆก็อยากลองกัน เกิดอะไรขึ้นมาก็รับผิดชอบไม่ไหว อีกอย่างคนทางบ้านเค้าจะรู้สึกยังงัย~